โฮมสเตย์สุดเท่ มีท้องนาอยู่หน้าบ้าน มีสะพานทอดยาวเข้าไปหาบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง


โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น บางส่วนมีดีไซน์ดีมาก เป็นเรือนที่แยกออกมาจากบ้านเจ้าของบ้าน มีความเป็นส่วนตัวสูง 


ระเบียงบ้าน (ที่นี่เขาห้ามส่งเสียงดังหลังสามทุ่มเพราะชาวบ้านนอกันหมดแล้ว)

กลับมาเยือนบ้านนาต้นจั่น

 

สามปีที่แล้วผมกับเพื่อนๆ มากางเต็นท์นอนบนดอยห้วยต้นไฮ บ้านนาต้นจั่น อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย การเดินทางครั้งนั้นทำให้เรารู้ว่าดอยห้วยต้นไฮเป็นดอยที่เดินง่าย เดินใกล้ แค่ 850 เมตรเท่านั้น บนดอยมีทัศนียภาพสวยงาม มองเห็นอาทิตย์ขึ้นและตกได้จากจุดเดียว มันเท่ตรงที่นั่งอยู่หน้าเต็นท์ก็เห็นทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก รุ่งขึ้นไปดูเขาย้อมผ้าหมักโคลน ตอนเที่ยงไปกินข้าวเปิ๊ป ข้าวพันผัก ก๋วยเตี๋ยวแบ อาหารประจำถิ่นแถบสุโขทัย อุตรดิตถ์ ส่วนการเดินทางครั้งนี้มุ่งหมายไปนอนโฮมสเตย์แสนสวย ตื่นเช้าเดินขึ้นดอยไปถ่ายภาพอาทิตย์วันใหม่ เรียกว่าสวนทางจากครั้งที่แล้วคงไม่ผิด


ขี่จักรยานเที่ยวชุมชน+ท้องนา




ไร่ข้าวโพด นาข้าว ป่าสัก
 

 

ครั้งนี้เราเดินทางไปถึงโฮมสเตย์แสนสวยของคุณแหม่มในช่วงเย็น จากนั้นจึงออกไปดูอาทิตย์ลาลับเหลี่ยมเขาด้วยการขี่จักรยานและอีกส่วนหนึ่งนั่งรถอีแต็ก ได้สัมผัสท้องนาเชียวชรอุ่มกับดวงตะวันสีทองอย่างที่หวัง จากนั้นจึงย้อนกลับมาที่บ้าน อาบน้ำอาบท่า กินข้าว (ขันโตก) กับข้าวมากมายกินกันได้ไม่เหลือเลย ใครบางคนบอกนั่งพึ่งพุง “อร่อยมากค่ะ” ใครอีกคนบอกว่า “เห็นกินกระจายทุกที พี่ว่าคุณน้องควรแยกแยะให้ออกนะระหว่างหิว อร่อย และลืมตัว” เป็นที่สนุกสนานบานฤทัย ก่อนยายอ้วนหลบไปหลับ ที่เหลือนั่งดูดาวโต้ลมหนาวกันที่ระเบียงจนดึกดื่นถึงแยกย้ายเข้าห้องนอน แล้วตื่นขึ้นมาก่อนสางพากันเดินขึ้นดอยไปดูสายหมอกหยอกเย้าแสงตะวัน


ดอกหญ้ายามเย็นหยอกเย้ากับแสงตะวัน






การเดินทางไปชมอาทิตย์ลาลับเหลี่ยมเขาเลือกได้  2 แบบ คือขี่จักรยานกับนั่งรถอีแต็ก




ทุ่งปอเทือง

 

ยามสายตระเวนไปบ้านทอผ้า หัดทอคนละทีสองที จึงทราบความจริงว่าการทอผ้าคืองานหัตถกรรมที่ยากมากที่สุดชนิดหนึ่ง ต้องใช้ความเพียรพยามยามสูงมาก ใครบางคนถึงกับบอกว่า “ตั้งแต่นี้ต่อไป ไปซื้อผ้าทอจะไม่ขอลดราคาแล้ว”  สุดท้ายไปดูเสื้อผ้าหมักโคลนที่ศูนย์ฯ ไปกินอาหารเที่ยงที่บ้านยายเครื่อง ทั้งข้าวเปิ๊ปและก๋วยเตี๋ยวแบ ยังรสดีเหมือนเดิม แต่ตัวบ้านเปลี่ยนไป คือสร้างเรือนใหม่ใหญ่โตทีเดียว (ชั้นบนทำเป็นที่พัก)


อาทิตย์ขึ้นที่ดอยห้วยต้นไฮ


ทุ่งหญ้าริมท้องนา


ยามเช้า


บางคนนอนนอกระเบียง ตอนนอนบอกได้ฟิลล์ ตอนเช้าบอกหนาวฉิบ...


ยามบ่าย

 

ทริปนี้สรุปกันสั้นๆ ว่าบ้านนาต้นจั่นคือชุมชนคนเรียบง่าย อยู่กันแบบพอเพียงเพียงพอ ภายในหมู่บ้านมีงานหัตถกรรมนำสมัยอย่างผ้าหมักโคลนซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นผ้าที่มีน้ำหนักดีมาก สวยด้วย มีการปลูกข้าว พืชผัก ผลไม้ แบบผสมผสาน ส่วนการท่องเที่ยวเป็นอาชีพเสริมที่ทำได้ดี ดีในที่นี้หมายถึงการจัดการในทุกกระบวนการ เริ่มตั้งแต่รอยยิ้ม ที่พัก การเดินทาง ธรรมชาติที่งดงาม และมิตรไมตรี ที่สำคัญโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่นหลายหลังเป็นบ้านมีดีไซน์ เป็นบ้านไม้ที่เปี่ยมไปด้วยงานตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ เป็นโฮมสเตย์ที่ดูดีมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ต้องสารภาพตามตรงว่าหลงรัก

ขณะแกว่งใจอยู่ในเปลบนระเบียงผมคิดถึงตอนทำงานอยู่นิตยสาร LIFE AND HOME + นิตยสาร HOME&RESORT ถ้ายังทำหนังสืออยู่ผมต้องจัดให้โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่นได้ตีพิมพ์อย่างน้อย 8 หน้าครับ


บ้านต้นไม้ก็มีนะ


ขันโตกมื้อค่ำ

ขอบคุณรอยยิ้มจากเด็กน้อย ขอบคุณรอยยิ้มและคำทักทายจากผู้เฒ่าผู้แก่ โดยเฉพาะอีตอนที่ผมใส่ผ้าถุงเดินถ่ายภาพอยู่ริมคันนาเพียงลำพัง ใครบางคนอาจคิดว่าผมเป็นหนุ่มหล่อประเภทสติไม่ค่อยดี...มีแต่ไม่ค่อยเต็ม ใครเห็นก็แย้มยิ้ม ยิ้มแบบ...อืม...แปลกๆ ขำๆ เด็กส่วนใหญ่ยิ้มและหัวเราะเริงร่าเป็นที่สนุกสนานเฮฮา ขอบคุณมากครับ

สายหมอกปกคลุมขุนเขาบันทึกภาพบนดอยห้วยแม่ไฮ

 

- อ่านรายละเอียดเรื่องดอยห้วยต้นไฮในคอลัมน์ป่าเขา www.khobjaithailand.com

 

- ทริป 2 วัน 1 คืน

15.00 น. รับนักท่องเที่ยวเข้าที่พัก

16.30 น. ปั่นจักรยานชมทุ่ง ชมพระอาทิตย์ตก

18.30 น. รัปประทานอาหารเย็น 

06.30 น. ตักบาตรหน้าบ้าน

07.30 น. รับประทานอาหารเช้า

08.30 น. ปั่นจักรยานชมวิธีการทอผ้าใต้ถุนบ้าน การทำตุ๊กตาบาร์โหน (บ้านตาวงศ์) หัตถกรรมตอไม้ ชมและชิมผลไม้ตามฤดูกาล การทำผ้าหมักโคลนและผลิตภัณฑ์จากผ้าหมักโคลน

11.30 น. ทดลองการทำข้าวเปิ๊ปอาหารถิ่น

 

- 1-2 ท่านคิดท่านล่ะ 600 บาท/คน

- เด็กอายุต่ำกว่า5ขวบคิด250บาท

-ชาวต่างชาติ 700 บาท /คน

-3 ท่านขึ้นไป 500 บาท/คน/

อาหารเย็น/เช้า/นอนพักหนึ่งคืน+กิจกรรมชมเที่ยวในหมู่บ้านเจ้าของบ้านพาชมเที่ยว

 

หากลูกค้าท่านใดสนใจขึ้นจุดชมวิวชมทะเลหมอกพระอาทิตย์ขึ้นเวลา 04.30น. ไกด์จะมารับยังที่พัก ค่าบริการ450/หลัง ระยะทางนั่งรถ3.5ก ม.ต่อด้วยเดินเท้าอีก 850 เมตร มีบริการจิบกาแฟในกระบอกไม้ไผ่

โปรแกรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม